ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความสำเร็จจากโครงการ Belt-and-Road Initiative (BRI) ของจีน ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกได้กำหนดพื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอาเซียนให้เชื่อมต่อกับจีนตอนใต้ผ่านทางรถไฟความเร็วสูงไทยลาว-จีน นับเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่ได้ใช้เส้นทางการค้าขายกับจีนผ่านรถไฟสายคุนหมิง-เวียงจันทน์ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564

นับเป็นเส้นทางการค้าใหม่และการขนส่งทางเลือกในการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและจีนใต้โดยเฉพาะคุนหมิง

​

ความได้เปรียบในด้านการขนส่งทางรถไฟเส้นทางนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นทางเลือกที่มีความสะดวกและตอบสนองต่อความต้องการในการขนส่งสินค้าที่ต้องการให้มาถึงทันเวลา ซึ่งเปรียบเทียบกับการขนส่งทางทะเลและแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจสำหรับการขนส่งในปริมาณมากมากกว่าการขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเคลื่อนย้ายสินค้าเข้าและออกจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ประเทศไทยมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางการค้ากับจีนภาคตะวันตกเฉียงใต้ ไม่เพียงแต่สำหรับสินค้าของตนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าที่หลากหลายและมีอยู่มากมายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย